อาการปวดหัวเป็นสิ่งที่ทุกคนต้องเจอในชีวิตประจำวัน แต่คุณเคยสังเกตไหมว่าปวดหัวแต่ละครั้งให้ความรู้สึกต่างกันไป บางครั้งปวดจี๊ดๆ บางครั้งปวดตุบๆ หรือบางครั้งรู้สึกหนักศีรษะจนทำอะไรไม่ไหว จริงๆ แล้ว อาการปวดหัวที่แตกต่างกันอาจเป็นสัญญาณที่ร่างกายพยายามบอกอะไรบางอย่างเกี่ยวกับสุขภาพของคุณ ลองมาทำความเข้าใจ อาการปวดหัวแต่ละประเภท และสิ่งที่พวกมันอาจกำลังบอกเกี่ยวกับร่างกายของคุณกันค่ะ
ปวดหัวไมเกรน ลักษณะอาการ ปวดหัวข้างเดียวหรือสองข้าง ปวดตุบๆ คล้ายจังหวะของชีพจร อาจมีอาการคลื่นไส้ อาเจียน และไวต่อแสงหรือเสียง บางคนมีอาการเตือนล่วงหน้า เช่น เห็นแสงวูบวาบ (Aura)
สาเหตุที่เป็นไปได้ ความเครียด การเปลี่ยนแปลงของฮอร์โมน (โดยเฉพาะในผู้หญิง) อาหารบางประเภท เช่น ชีส ไวน์แดง หรือช็อกโกแลต รวมถึงการอดนอนหรือการพักผ่อนที่ไม่เพียงพอ
วิธีบรรเทาและป้องกัน หลีกเลี่ยงอาหารกระตุ้นไมเกรน พักผ่อนให้เพียงพอและจัดการความเครียด ใช้ยาแก้ปวดตามที่แพทย์แนะนำ หากเป็นไมเกรนบ่อยๆ อาจต้องพิจารณายารักษาในการป้องกันค่ะ
ปวดหัวจากความเครียด
ลักษณะอาการ ปวดแบบตึงๆ หนักๆ บริเวณหน้าผาก ขมับ หรือท้ายทอย รู้สึกเหมือนมีอะไรมาบีบรัดศีรษะ ไม่มีอาการคลื่นไส้หรืออาเจียน
สาเหตุที่เป็นไปได้ ความเครียดทางร่างกายหรือจิตใจ การใช้กล้ามเนื้อคอและไหล่มากเกินไป เช่น นั่งทำงานหน้าคอมนานๆ การอดนอน
วิธีบรรเทาและป้องกัน ผ่อนคลายความเครียดด้วยการออกกำลังกาย โยคะ หรือการนวด พักสายตาจากจอคอมพิวเตอร์บ่อยๆ หลีกเลี่ยงการเกร็งกล้ามเนื้อบริเวณคอและไหล่
ปวดหัวไซนัส
ลักษณะอาการ ปวดรอบดวงตา หน้าผาก และโหนกแก้ม ปวดหนักขึ้นเมื่อก้มศีรษะ อาจมีน้ำมูกข้น สีเหลืองหรือเขียว อาจมีไข้ร่วมด้วย
สาเหตุที่เป็นไปได้ การอักเสบของโพรงไซนัสจากการติดเชื้อ ภูมิแพ้ที่ทำให้โพรงไซนัสอุดตัน
วิธีบรรเทาและป้องกัน ดื่มน้ำมากๆ เพื่อช่วยให้มูกไหลออกง่ายขึ้น ใช้ไอน้ำหรือประคบร้อนเพื่อลดการอุดตันของไซนัส หากเป็นไซนัสอักเสบจากเชื้อแบคทีเรีย ควรพบแพทย์เพื่อรับยาปฏิชีวนะ
ปวดหัวจากความดันโลหิตสูง
ลักษณะอาการ ปวดหนักๆ ที่ท้ายทอยหรือรอบศีรษะ อาจมีอาการหน้ามืด เวียนศีรษะ หรือหัวใจเต้นเร็วร่วมด้วย อาการอาจเกิดขึ้นช่วงเช้าหรือเวลาที่ความดันพุ่งสูง
สาเหตุที่เป็นไปได้ ความดันโลหิตสูง ความเครียดหรือการใช้ชีวิตที่ไม่สมดุล
วิธีบรรเทาและป้องกัน ควบคุมอาหาร หลีกเลี่ยงโซเดียมและไขมันสูง ออกกำลังกายสม่ำเสมอ วัดความดันโลหิตเป็นประจำ หากมีอาการบ่อยๆ ควรพบแพทย์
ปวดหัวจากการใช้งานคอมพิวเตอร์
ลักษณะอาการ ปวดบริเวณหน้าผาก ขมับ หรือรอบดวงตา ตาล้า แสบตา หรือมองเห็นภาพเบลอ มักเกิดหลังจากใช้คอมพิวเตอร์หรือโทรศัพท์เป็นเวลานาน
สาเหตุที่เป็นไปได้ การใช้สายตากับหน้าจอมากเกินไป แสงสีฟ้าจากหน้าจอทำให้กล้ามเนื้อตาล้า
วิธีบรรเทาและป้องกัน ใช้กฎ 20-20-20: ทุกๆ 20 นาที พักสายตา 20 วินาที มองไปที่ระยะ 20 ฟุต ปรับแสงหน้าจอให้เหมาะสม กระพริบตาบ่อยๆ หรือใช้น้ำตาเทียมหากตาแห้ง
ปวดหัวจากการขาดน้ำ
ลักษณะอาการ ปวดศีรษะตุบๆ ทั่วศีรษะ อาจมีอาการปากแห้ง วิงเวียน และรู้สึกอ่อนเพลียร่วมด้วย
สาเหตุที่เป็นไปได้ การดื่มน้ำน้อยเกินไป เสียเหงื่อมากจากการออกกำลังกายหรืออากาศร้อน
วิธีบรรเทาและป้องกัน ดื่มน้ำให้เพียงพอตลอดวัน หากออกกำลังกายหรืออยู่ในที่ร้อน ให้ดื่มน้ำเกลือแร่เพิ่มเติม
อาการปวดหัวไม่ใช่เรื่องเล็ก เพราะแต่ละประเภทอาจเป็นสัญญาณบอกปัญหาสุขภาพที่แตกต่างกัน หากคุณปวดหัวบ่อยๆ หรือมีอาการผิดปกติ ควรสังเกตและหาทางป้องกันตั้งแต่เนิ่นๆ ถ้าหากอาการปวดหัวรุนแรงขึ้นเรื่อยๆ หรือมีอาการอื่นร่วม เช่น แขนขาอ่อนแรง พูดไม่ชัด หรือหมดสติ อย่านิ่งนอนใจ ควรรีบพบแพทย์ทันทีค่ะ ผู้อ่านท่านใดที่มีความสนใจอยากเข้ารับการรักษาอาการปวดหัว หรือต้องการเข้าพบแพทย์เพื่อตรวจหาสาเหตุอาการปวดหัวว่ามีที่มาจากอะไร สามารถสอบถามเพิ่มเติมได้ที่ H8 Clinic คลินิกเฉพาะทางที่เชี่ยวชาญด้านอาการปวดหัว โดยแพทย์ด้านระบบประสาทและสมอง ดูแลคุณด้วยนวัตกรรมการรักษาที่ทันสมัย ติดตามผลการรักษาอย่างใส่ใจค่ะ
อาการปวดหัวแต่ละแบบบอกอะไรเกี่ยวกับสุขภาพของคุณ?
Share this content.
สารอันตรายในครีมสำหรับคนท้องที่ต้องเลี่ยง เพื่อความปลอดภัยของลูก
สารอันตรายในครีมสำหรับคนท้องที่ต้องเลี่ยง เพื่อความปลอดภัยของลูก
สารอันตรายในครีมสำหรับคนท้องที่ต้องเลี่ยง เพื่อความปลอดภัยของลูก